2 ปี ที่แล้ว
ฝนตกไม่หยุด จะสิ้นปีก็ไม่มีทีท่าว่าจะหมดหน้าฝน วันนี้เปาขอมาแชร์ 5 เคล็ดลับสำหรับการตากผ้าให้แห้ง แม้ในวันที่ไม่มีแดด ให้ผ้ายังหอม สะอาด ไม่มีกลิ่นอับ
1.ลดจำนวนผ้าที่ซักให้เหมาะสม
การลดจำนวนผ้าที่ซัก นอกจากจะช่วยลดระยะเวลาการซักผ้าต่อรอบลง ยังช่วยให้ภายในถังซักไม่อัดแน่นด้วยผ้าจำนวนมากจนเกินไป และทำให้เราค่อย ๆ ทยอยตากผ้าในปริมาณที่เหมาะสมกับพื้นที่การตากผ้า ช่วยให้ผ้าเราแห้งได้ง่ายขึ้น ไม่ง้อแดด แม้ในวันที่แดดน้อย
2. กระจายการตากในห้อง
การลดปริมาณการตากในพื้นที่ห้องเล็กๆ เป็นตากหลายๆ ห้อง ห่างๆ กันจะช่วยให้ผ้าแห้งได้ไวขึ้น เพราะจะช่วยเพิ่มพื้นที่การไหลเวียนของอากาศภายในห้อง และลดปริมาณความชื้นของผ้าที่คายน้ำออกมาจากการตากผ้าได้ ช่วยให้ผ้าแห้งไว แม้จะตากในที่ร่ม ไม่ต้องง้อแดด
3. เปิดหน้าต่างลดความชื้น
การตากผ้าในร่ม เป็นไปไม่ได้ที่จะหลีกเลี่ยงความชื้นสะสมภายในห้อง เพราะงั้นการเปิดหน้าต่างเพื่อลดความชื้น จึงเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ช่วยลดความชื้นภายในห้อง ทำให้ผ้าแห้งได้ไวขึ้น เพราะความชื้นไม่สะสมในห้อง ไม่ต้องง้อแดด
4. อย่าทำให้ผ้ามีรอยย่น
ถ้าคุณคิดว่าจะซักผ้าโดยการเพิ่มรอบหมุนของเครื่องซักผ้าให้เร็วและมากที่สุด เพื่อจะได้รีดน้ำออกให้ได้มากที่สุดก่อนเอามาตาก นับว่าเป็นความคิดที่ผิด เพราะนั่นจะทำให้ผ้าของคุณมีรอยย่นยับมากกว่าเก่า ซึ่งการที่ผ้ายับ จะทำให้เนื้อผ้าอยู่ใกล้ชิดกันจนไม่มีพื้นที่ให้อากาศไหลผ่านส่งผลให้ผ้าอาจแห้งช้าขึ้นกว่าเดิม เพราะงั้นเราควรซักด้วยรอบปกติ และสะบัดผ้าให้ตึงเพื่อจะได้ตากผ้าในห้องได้ง่ายขึ้น ให้ผ้าได้มีอากาศไหลผ่านทั่วถึง ผ้าแห้งไวได้ ไม่ต้องง้อแดด
5. ใช้เปา ซิลเวอร์ นาโน
และอีกหนึ่งเคล็ดลับสุดท้าย ที่อยากแนะนำคือเปลี่ยนมาใช้เปา ซิลเวอร์ นาโน ผลิตภัณฑ์ผงซักฟอกที่จะช่วยให้เคล็ดลับตั้งแต่ข้อ 1-4 ของเราได้ผลดียิ่งขึ้น ให้ผ้าแห้ง หอม แบบไม่ง้อแดด เพราะมีเทคโนโลยี ‘ซิลเวอร์ นาโน’ สูตรเฉพาะของทางเปา ที่ช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่มองไม่เห็น ต้นเหตุของปัญหากลิ่นอับ แถมยังได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถฆ่าเชื้อไวรัส COVID-19 ได้มากถึง 99.99% และช่วยยับยั้งแบคทีเรีย* บนผ้าได้ ให้การตากผ้าในที่ร่มของเราเป็นเรื่องที่หมดกังวล มั่นใจได้ว่าผ้าแห้งไว ตากทิ้งไว้ได้ทั้งคืน ไม่ต้องกลัวเหม็นอับ
*ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ได้มากกว่า 99.99% จากการทดสอบในห้องปฏิบัติการของหน่วยงานทดสอบในประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือน ธันวาคม 2563 / เดือน มิถุนายน 2564 และผ่านการทดสอบประสิทธิภาพการยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย S.aureus, K.pneumoniae และ E.coli ได้ 99.9% ในห้องปฏิบัติการของหน่วยงานทดสอบในประเทศไทย เมื่อเดือน กันยายน 2563